การคมนาคมในญี่ปุ่น


รถไฟ
ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีระบบการคมนาคมที่สะดวกสบายและตรงต่อเวลาที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟ รถประจำทาง หรือเครื่องบิน แต่การเดินทางโดยรถไฟดูจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหนของญี่ปุ่นเราสามารถไปได้อย่างง่ายดายด้วยรถไฟ
การรถไฟของญี่ปุ่นดำเนินการโดยบริษัทต่างๆ ทั้งที่เป็นของภาครัฐ และเอกชน สำหรับองค์กรที่เป็นที่รู้จักกันดีได้แก่ Japan Railways หรือ JR ซึ่งเป็นบริษัทรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อดีตเคยเป้นของรัฐบาล แต่ปัจจุบันดำเนินการโดยเอกชน รถไฟJR มีให้บริการ ทั้งในระยะไกล และในตัวเมือง ดังนั้นจึงมีผู้ใช้บริการอย่างมากมาย โดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วนรถไฟที่วิ่งในตัวเมืองจะแน่นเป็นพิเศษ
รถไฟ JR จะมีการแบ่งตามระยะทางและความเร็วด้วย คือ
1. ขบวนธรรมดา จะจอดทุกป้าย มักจะวิ่งตามเมืองใหญ่ๆ
2. Limited Express (Kaisoku) จะจอดเฉพาะป้ายสำคัญๆ เท่านั้น
3. Special Express (Tok-kyu) จะจอดเฉพาะป้ายหลักๆ คือจอดน้อยกว่าและวิ่งเร็วกว่า Limited Express
รถไฟ JR จะวิ่งทั้งในเมืองและออกไปชานเมือง ซึ่งรถไฟแบบนี้ ขณะที่วิ่งในเมืองก็จะเป็นขบวนธรรมดาจอดทุกป้าย แต่ออกนอกเขตตัวเมืองแล้ว จะเปลี่ยนเป็น Limited Express หรือ Special Express ก็มีดังนั้นก่อนขึ้นรถไฟจะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่ารถไฟขบวนที่จะนั่งเป็นลักษณะไหน
    นอกจากรถไฟ JR แล้ว ก็ยังมีรถไฟที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้ คือ รถไฟใต้ดิน ซึ่งรถไฟใต้ดินที่ญี่ปุ่นมักจะวิ่งเฉพาะในตัวเมืองจนถึงเขตเมืองรอบนอกเท่านั้น จะไม่วิ่งข้ามจังหวัดเหมือนรถไฟ JR แต่รถไฟใต้ดินก็มีผู้ใช้บริการมากพอๆ กับรถไฟ JR และในชั่วโมงเร่งด่วน บางสายของรถไฟใต้ดินที่แน่พอๆกับรถไฟ JR
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รถโดยสารประจำทาง ญี่ปุ่นรถโดยสารประจำทาง
รถประจำทางของญี่ปุ่นจะวิ่งในระยะทางสั้นๆ ไม่วิ่งไกลมากเหมือนของเมืองไทย แต่ที่วิ่งระยะไกลแบบข้ามจังหวัดก็มีเช่นกัน รถประจำทางของญี่ปุ่นจะไม่มีพนักงานเก็บค่าโดยสาร แต่จะมีเครื่องเก็บเงินอัตโนมัติอยู่ข้างคนขับรถ เราสามารถจ่ายได้ทั้งเหรียญ และธนบัตร ในโตเกียวจะเก็บอัตราค่าโดยสารเดียว คือ ผู้ใหญ่ 200 เยน ตลอดสาย และเด็ก 100 เยน ตลอดสาย แต่รถประจำทางตามจังหวัดที่วิ่งในระยะทางที่ค่อนข้างไกล (แต่ไม่ได้ข้ามจังหวัด) การจ่ายค่าโดยสารจะแตกต่างกันออกไปคือ เมื่อขึ้นไปแล้วยังไม่ต้องจ่ายเงิน แต่เครื่องจะออกเป็นตั๋วที่มีหมายเลขมาให้เรา นั่นคือหมายเลขต้นทางที่เราขึ้น เมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่จะลง ค่อยยื่นตั๋วให้ให้พนักงานขับรถ และพนักงานขับรถจะกดเครื่องเก็บเงินอัตโนมัติที่อยู่หน้ารถให้ออกมาเป็นราคาค่าโดยสารที่เราต้องจ่าย
*ข้อควรระวังในการโดยสารรถไฟและรถประจำทาง
ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะโดยสาร เนื่องจากภายในพาหนะที่กำลังโดยสารอยู่นั้น อาจมีผู้ที่เป็นโรคหัวใจที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจโดยสารอยู่ด้วย ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์มือถืออาจไปรบกวนการทำงานของอุปกรณ์ชนิดนี้และอาจส่งผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
รถแท็กซี่การคิดค่าโดยสารรถแท็กซี่ของญี่ปุ่นจะเหมือนกับของไทย คือคิดราคาตามมิเตอร์ ราคาจะเริ่มต้นที่ 660 เยน สำหรับ 2 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้น 80 เยนทุกๆ 274 เมตร หรือรถติดทุกๆ 40 วินาที และยังมีรถแท็กซี่คันเล็กซึ่งจะคิดราคามิเตอร์เริ่มต้นที่ 640 เยน ใน 2 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้น 80 เยน ทุกๆ 290 เยน ค่าแท็กซี่ในช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตี 5 จะมีราคาแพงกว่าปกติ ผู้โดยสารสามารถขึ้นรถแท็กซี่ได้ที่หน้าสถานีรถไฟ หรือต่อแถวขึ้นตามจุดบริการ (Taxi Noriba) คนขับรถแท็กซี่ทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงจะต้องใส่สูทและสวมถุงมือด้วย ซึ่งภายในรถแท็กซี่ทุกคันจะมี Navigator เพื่อใช้ในการตรวจสอบเส้นทาง เพียงแค่ใส่ชื่อสถานที่ปลายทางที่เราต้องการไป เครื่องจะค้นหาให้อย่างอัตโนมัติ สำหรับค่าโดยสารนั้นสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้และยังขอใบเสร็จรับเงินได้ด้วยหากต้องการ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รถจักรยาน ญี่ปุ่นรถจักรยาน
ที่ญี่ปุ่นการขี่จักรยานบนทางเท้าถือเป็นเรื่องปกติดังนั้นเป็นหน้าที่ของคนเดินบนทางเท้าที่จะต้องระวังจักรยาน โดยปกติคนญี่ปุ่นนิยมขี่รถจักรยานเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายและถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย เช่นใช้เดินทางจากบ้าน ไปสถานีรถไฟหรือป้ายรถประจำทางจากบ้านไปโรงเรียนแม่บ้านมักจะใช้เวลาไปจ่ายตลาดเป็นต้น ตามสถานีรถไฟเกือบทุกแห่งจึงมีที่สำหรับจอดจักรยาน แต่ควรจะล็อคจักรยานให้ดีด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกขโมยได้ หากจอดจักรยานในที่ห้ามจอดอาจจะโดนยกไปไว้ที่สถานีตำรวจและต้องเสียเวลาไปรับคืนพร้อมทั้งเสียค่าปรับด้วย
*หมายเหตุ การนั่งซ้อนจักรยานถือว่าผิดกฎหมายและอาจถูกเรียกไปตักเตือนได้


credit:wikipedia/ studyabroadplus





           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น